บอร์ดสลากฯ ชงแก้กฎหมายใหม่ อายุต่ำกว่า 20 ห้ามซื้อหวย

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

            บอร์ดสลากฯ ชงแก้กฎหมายใหม่ คุมอายุต่ำกว่า 20 ห้ามซื้อหวย เสนอตั้งกองทุนซื้อคืน รับซื้อหวยเลขไม่สวยขายไม่ได้จากผู้ค้า เตรียมออกสลากเลขท้าย 2-3 ตัว หวังแก้ปัญหาขายสลากเกินราคา

            วานนี้ (26 มกราคม 2558) พล.ต. ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการสลากฯ ว่า ทางคณะกรรมการมีมติเห็นชอบให้แก้ไข พ.ร.บ.สลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 แล้ว โดยเบื้องต้นจะปรับแก้เนื้อหาให้ทันสมัย เพื่อให้ทางสำนักงานสลากฯ มีความคล่องตัวในการจำหน่ายสลากดังกล่าว

            นอกจากนี้ยังได้เพิ่มการดูแลสังคม โดยกำหนดมาตรการป้องกันคุ้มครองเด็กและเยาวชนไม่ให้เกี่ยวข้องกับสลากฯ คือ ห้ามจำหน่ายสลากให้กับบุคคลที่อายุต่ำกว่า 20 ปี และห้ามจำหน่ายสลากในสถานศึกษา รวมทั้งบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษาด้วย ซึ่งหลังจากนี้จะส่งเรื่องดังกล่าวให้กระทรวงการคลังพิจารณา ก่อนที่จะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป

            ทั้งนี้แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า การแก้ไข พ.ร.บ.สลากฯ จะเปิดทางให้สำนักงานสลากฯ สามารถเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มขึ้น เช่น สลากเขียนเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว หรือสลากออนไลน์ เพื่อแก้ไขปัญหาการขายสลากเกินราคา โดยจะช่วยให้ประชาชนสามารถเลือกซื้อได้หลากหลายช่องทาง และจะช่วยกดดันราคาพ่อค้าให้ปรับลดราคาลงตามความเป็นจริงด้วย
 
            พร้อมกันนี้ การแก้ไข พ.ร.บ. ดังกล่าว ยังมีการเสนอให้จัดตั้งกองทุนรับซื้อเลขคืนจากลูกค้า เนื่องจากปัจจุบันเป็นการขายสลากแบบขายขาด ทำให้ผู้ค้ามีต้นทุนจากสลากที่เลขไม่สวยและขายไม่ได้ เลยตั้งราคาสลากไว้สูง ซึ่งการตั้งกองทุนรับซื้อเลขคืนก็จะช่วยแก้ปัญหาการขายสลากเกินจริงได้อีกทาง รวมทั้ง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวนี้ อาจจะมีการเสนอปรับลดสัดส่วนการแบ่งรายได้เข้ารัฐ จากเดิมกำหนดให้จัดสรรเป็นเงินรางวัล 60% รายได้เข้ารัฐ 28% และค่าบริหารจัดการที่ 12% โดยจะปรับเพิ่มค่าบริหารจัดการให้สูงขึ้น เพื่อทำให้ผู้ค้ามีรายได้เพิ่มขึ้น

            แหล่งข่าว ระบุอีกว่า โดยเบื้องต้นได้นำผลการหารือแก้ไขร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว ให้กับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี รับทราบแล้ว และเชื่อว่าหากไม่ติดอะไร ก็จะสามารถเสนอให้นายสมหมาย รังษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณาภายในเดือนนี้ได้ เพื่อเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1 ปี


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก