ย้อนกลับไปเมื่อปี 2559 นางเรวดี หาแก้ว หรือ ป้าติ้น และนางวิไลพร รัตนติสร้อย หรือ ป้าเล็ก ได้ร้องขอความเป็นธรรมจากตำรวจในคดีที่ถูก นางสุดารัตน์ น้อยนิตย์ หรือ ป้าดา เพื่อนที่หุ้นซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล หมายเลข 066720 จำนวน 5 คู่ ซึ่งถูกรางวัลที่ 1 ประจำวันที่ 1 เมษายน 2559 รวมมูลค่า 30 ล้านบาท เชิดลอตเตอรี่หายไป โดยนางสุดารัตน์นำลอตเตอรี่ไปขึ้นเงินแต่เพียงผู้เดียว ทั้งที่ได้เซ็นชื่อไว้ด้านหลังลอตเตอรี่ ซึ่งทางกองสลากได้ตรวจสอบลอตเตอรี่ดังกล่าวแล้ว พบว่าปกติทุกอย่าง ไม่มีลายเซ็น-รอยขูดขีด ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น [อ่านข่าว : สำนักงานสลากฯ ชี้ลอตเตอรี่ปกติทุกอย่าง คดีเพื่อนเชิดเงินหวย 30 ล้าน]
ล่าสุด วันที่ 22 สิงหาคม 2560 นางเรวดี หรือ ป้าติ้น ได้เปิดเผยกับรายการต่างคนต่างคิด ว่า ตนถูกหวย 30 ล้านอีกครั้ง แต่กลับไม่ได้เงินจำนวนดังกล่าว โดยเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา ตนไปไหว้พระที่วัดป่าคำชะโนด จ.อุดรธานี พร้อมกับป้าเล็ก และป้าติ๋ว และได้ซื้อลอตเตอรี่ เลข 392785 มาจำนวน 1 ชุด (5 คู่) ราคา 500 บาท และได้ขอเบอร์โทรศัพท์คนขายไว้ด้วย พร้อมกับให้ป้าติ๋วถ่ายรูปลอตเตอรี่เก็บไว้ โดยลอตเตอรี่ชุดดังกล่าว ตนกับป้าติ๋วได้ตกลงว่าจะหุ้นซื้อกันคนละ 250 บาท โดยป้าติ๋วจะต้องเป็นคนออกเงินให้ เนื่องจากป้าติ๋วติดเงินค่าลอตเตอรี่ และตนก็ได้ขอลอตเตอรี่มาเซ็นชื่อไว้ด้านหลัง 2 คู่ครึ่ง พร้อมกับทำตำหนิ ก่อนจะส่งคืนให้ป้าติ๋วเก็บไว้ โดยบอกว่าจะเอาไปรวมกับที่เคยซื้อไว้ แล้วมาแบ่งกันทีเดียว
แต่พอมาถึงที่กรุงเทพฯ ก็ไม่ได้แบ่งกัน จนวันที่ 30 มีนาคม ตนจึงโทร. ไปหาป้าติ๋วเพื่อจะนัดแบ่งลอตเตอรี่ แต่อีกฝ่ายอ้างว่าไม่ว่าง จะพาสามีไปซื้อกับข้าว ตนจึงเลื่อนนัดเป็นวันที่ 31 มีนาคม ป้าติ๋วก็บอกว่าไม่ว่างอีก และจะนัดแบ่งลอตเตอรี่กันในวันที่ 1 เมษายน แต่สุดท้ายป้าติ๋วก็ไลน์มาหาตนในวันที่ 31 มีนาคม ว่า ต้องรีบกลับไปดูอาการแม่ ตนจึงโทรศัพท์ไปบอกป้าติ๋วให้เก็บลอตเตอรี่ไว้ก่อน และพอตนทราบว่าเลขงวดนี้ออกอะไร ก็รู้เลยว่าเลขที่ตนซื้อมานั้นถูกรางวัล จึงทวงถามกับป้าติ๋ว แต่อีกฝ่ายยืนยันว่าไม่ได้ซื้อเลขดังกล่าวมา พร้อมกับบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้ตนไปหาหรือเจอตัว และยังบอกตนอีกว่า "กูจะแจ้งความมึงกรรโชกทรัพย์" ตนเลยเดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ดงเย็น จ.อุดรธานี และอยากให้ตำรวจนำโทรศัพท์ของป้าติ๋วไปตรวจสอบ เพื่อนำภาพถ่ายไปเป็นหลักฐานด้วย
ทั้งนี้ ป้าติ้น ยังบอกด้วยว่า หากถามว่าทำไมตนถึงซื้อหวยแล้วถูกรางวัลทั้ง 2 รอบ ก็คงเป็นเพราะดวง ส่วนที่ถามว่าตนเป็นพวกตบทรัพย์หรือไม่ ก็ขอตอบว่าไม่ใช่ และไม่เคยไปขู่ป้าติ๋วเลยว่าถ้ายอมจ่ายเงินตน 2-3 ล้าน จะไม่แจ้งความ พูดอย่างเดียวคือทำไมถูกแล้วถึงไม่เอามาแบ่งกัน ส่วนที่มีคนถามว่าตนเคยตรวจสภาพจิตหรือไม่นั้น เรารู้ว่าเราทำอะไรอยู่ ตนเป็นคนมีดวง ตนชี้ให้เขาเลือกใบที่ถูกเอง ชีวิตนี้ไม่มีหนี้สิน และตนไม่ได้มีนิสัยใส่ร้ายผู้อื่น สักวันต้องพิสูจน์และเอาผิดอีกฝ่ายให้ได้ พร้อมให้ข้อมูลว่า คดีของนางสุดารัตน์ ที่เกิดเมื่อปี 2559 ตนมีหลักฐานที่จะใช้สู้ในชั้นศาล โดยเป็นลายมือของผู้ที่นำลอตเตอรี่ไปขึ้นเงิน ซึ่งหากสังเกตคำว่า "นิ" จะมีลักษณะที่คล้ายกับลายมือชื่อของนางสุดารัตน์ จึงจะนำตัวหนังสือนี้ไปต่อสู้ในชั้นศาล
ด้านนางสุดารัตน์ ที่ถูกนางเรวดี (ป้าติ้น) กล่าวหาเมื่อปี 2559 เผยว่า คบหาป้าติ๋วมา 10-20 ปี ป้าติ๋วไม่มีนิสัยลักขโมย ส่วนตัวไม่เชื่อว่าป้าติ๋วจะขโมยลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ 1 ของนางเรวดีแน่นอน
แต่พอมาถึงที่กรุงเทพฯ ก็ไม่ได้แบ่งกัน จนวันที่ 30 มีนาคม ตนจึงโทร. ไปหาป้าติ๋วเพื่อจะนัดแบ่งลอตเตอรี่ แต่อีกฝ่ายอ้างว่าไม่ว่าง จะพาสามีไปซื้อกับข้าว ตนจึงเลื่อนนัดเป็นวันที่ 31 มีนาคม ป้าติ๋วก็บอกว่าไม่ว่างอีก และจะนัดแบ่งลอตเตอรี่กันในวันที่ 1 เมษายน แต่สุดท้ายป้าติ๋วก็ไลน์มาหาตนในวันที่ 31 มีนาคม ว่า ต้องรีบกลับไปดูอาการแม่ ตนจึงโทรศัพท์ไปบอกป้าติ๋วให้เก็บลอตเตอรี่ไว้ก่อน และพอตนทราบว่าเลขงวดนี้ออกอะไร ก็รู้เลยว่าเลขที่ตนซื้อมานั้นถูกรางวัล จึงทวงถามกับป้าติ๋ว แต่อีกฝ่ายยืนยันว่าไม่ได้ซื้อเลขดังกล่าวมา พร้อมกับบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้ตนไปหาหรือเจอตัว และยังบอกตนอีกว่า "กูจะแจ้งความมึงกรรโชกทรัพย์" ตนเลยเดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ดงเย็น จ.อุดรธานี และอยากให้ตำรวจนำโทรศัพท์ของป้าติ๋วไปตรวจสอบ เพื่อนำภาพถ่ายไปเป็นหลักฐานด้วย
ทั้งนี้ ป้าติ้น ยังบอกด้วยว่า หากถามว่าทำไมตนถึงซื้อหวยแล้วถูกรางวัลทั้ง 2 รอบ ก็คงเป็นเพราะดวง ส่วนที่ถามว่าตนเป็นพวกตบทรัพย์หรือไม่ ก็ขอตอบว่าไม่ใช่ และไม่เคยไปขู่ป้าติ๋วเลยว่าถ้ายอมจ่ายเงินตน 2-3 ล้าน จะไม่แจ้งความ พูดอย่างเดียวคือทำไมถูกแล้วถึงไม่เอามาแบ่งกัน ส่วนที่มีคนถามว่าตนเคยตรวจสภาพจิตหรือไม่นั้น เรารู้ว่าเราทำอะไรอยู่ ตนเป็นคนมีดวง ตนชี้ให้เขาเลือกใบที่ถูกเอง ชีวิตนี้ไม่มีหนี้สิน และตนไม่ได้มีนิสัยใส่ร้ายผู้อื่น สักวันต้องพิสูจน์และเอาผิดอีกฝ่ายให้ได้ พร้อมให้ข้อมูลว่า คดีของนางสุดารัตน์ ที่เกิดเมื่อปี 2559 ตนมีหลักฐานที่จะใช้สู้ในชั้นศาล โดยเป็นลายมือของผู้ที่นำลอตเตอรี่ไปขึ้นเงิน ซึ่งหากสังเกตคำว่า "นิ" จะมีลักษณะที่คล้ายกับลายมือชื่อของนางสุดารัตน์ จึงจะนำตัวหนังสือนี้ไปต่อสู้ในชั้นศาล
ด้านนางสุดารัตน์ ที่ถูกนางเรวดี (ป้าติ้น) กล่าวหาเมื่อปี 2559 เผยว่า คบหาป้าติ๋วมา 10-20 ปี ป้าติ๋วไม่มีนิสัยลักขโมย ส่วนตัวไม่เชื่อว่าป้าติ๋วจะขโมยลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ 1 ของนางเรวดีแน่นอน
ส่วนคดีของตนที่มีปัญหากับนางเรวดีนั้น ก็รอเพียงวันฟังคำตัดสินของศาล ในวันที่ 28 กันยายน 2560 ซึ่งก็จะทราบถึงข้อเท็จจริง ที่ผ่านมาก็เครียดมาตลอด ตนมองว่าลอตเตอรี่มันไม่เคยมีแล้วจะมีได้อย่างไร ไม่เข้าใจว่านางเรวดีทำไปเพื่ออะไร แถมยังมารู้ข่าวว่าป้าติ๋วถูกนางเรวดีเอาเรื่องหวยรางวัลที่ 1 มาอ้างถึงอีก แล้วเนื้อหาของเรื่องคล้าย ๆ แบบเดิม ก็สงสารป้าติ๋ว เพราะป้าติ๋วก็มีมาปรึกษาตนอยู่บ้าง ซึ่งตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเช่นกัน
ขณะที่ พ.ต.ท. จำลอง ทับสีแก้ว รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ดงเย็น จ.อุดรธานี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ต้องรวบรวมหลักฐานเพื่อจะแจ้งข้อหากับผู้ถูกกล่าวหาได้ ขณะนี้ก็ต้องรอหนังสือจากทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลว่ามีการขึ้นเงินถูกต้องหรือไม่ แต่เบื้องต้นถ้าเป็นไปตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง ก็จะถูกดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์
ด้านทนายเกิดผล แก้วเกิด เผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นมีหลายเรื่องที่น่าสงสัยตั้งแต่ที่นางเรวดีขอเบอร์โทรศัพท์คนขายลอตเตอรี่ เพราะโดยปกติแล้วคนทั่วไปเวลาไปเที่ยวคงไม่ขอเบอร์คนที่ไม่รู้จักอย่างแน่นอน ส่วนการถ่ายภาพลอตเตอรี่ไว้ก็ไม่มีผล เพราะหากถ่ายไว้แล้วไม่ได้ซื้อก็เป็นหลักฐานที่อ่อน แต่ก็ต้องบอกว่าหากป้าติ๋วถูกดำเนินคดี ต้องลำบากในการหาเงินมาประกันตัวอย่างแน่นอน แต่ถ้าป้าติ๋วถูกนางเรวดีข่มขู่ก็สามารถแจ้งข้อหากลับได้ คือ ขู่กรรโชกทรัพย์
อย่างไรก็ดี ทีมข่าวอมรินทร์ได้สอบถามนางใบบัว (นามสมมติ) ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ภายในพื้นที่ใกล้เคียงกับนางเรวดี เผยว่า ตัวเองพักอาศัยที่นี่มากว่า 10 ปี ก็จะเห็นนางเรวดีมานั่งสังสรรค์อยู่บริเวณศาลาหน้าตึก นางเรวดีนั้นเป็นคนนิสัยดี ชอบแบ่งปัน มีเพื่อนเยอะ แล้วก็ไม่เคยมีปัญหากับใคร แต่นางเรวดีนั้นเป็นคนเล่นหวยเยอะ มักจะซื้อลอตเตอรี่ทีละหลาย ๆ ใบ ซึ่งจะนำมาให้ชาวบ้านแถวนี้ดูว่าซื้อเลขมา บางคนชอบก็มีขอแบ่งซื้อไปก็มี แล้วก็มาทราบข่าวว่า ปี 2559 นางเรวดีถูกรางวัลที่ 1 และครั้งนี้ตนก็เพิ่งรู้เรื่องเช่นกัน ส่วนเรื่องจริงจะเป็นอย่างไรตนก็ไม่ทราบ
ภาพและข้อมูลจาก