กองสลาก เผย วิธีตรวจสลากปลอมล่าสุด หลังมีคนดัดแปลงนำมาขึ้นรางวัลอื้อ ชี้ หากจับได้มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี
นอกจากนี้
ยังสามารถใช้วิธีตรวจหาร่องรอยการแก้ไข
หรือการตัดแปะตัวเลขบนสลากได้โดยใช้กล้องหรือแว่นขยายส่องบริเวณจุดที่สงสัยว่าจะมีการแก้ไข
เช่น บริเวณหมายเลขสลาก หรืองวดวันที่
โดยนำตัวเลขจากฉบับอื่นมาปะทับบนตัวเลขที่ไม่ต้องการ
หรือตัวเลขที่ไม่ถูกรางวัลเพื่อให้ได้หมายเลขตรงกับสลากที่ถูกรางวัล
รวมทั้งการแก้ไขด้วยวิธีขูด ลบ ลอก ตัวเลขเดิมที่ไม่ต้องการออก
แล้วนำตัวเลขจากสลากฉบับอื่นมาปะแทนเพื่อให้ได้หมายเลขตรงกับสลากที่ถูกรางวัล
เป็นต้น
นอกจากการตรวจสอบสลากอย่างรอบคอบแล้ว ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้แนะนำให้ผู้ประกอบอาชีพรับซื้อรางวัล มีการเฝ้าระวังเพิ่มเติม โดยการขอให้ผู้มาขึ้นเงินรางวัลแสดงบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อตรวจดูว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ พร้อมถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน รวมทั้งหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ไว้หลังสลาก โดยให้ผู้รับรางวัลลงลายมือชื่อไว้ หรือหากไม่สามารถเขียนหนังสือได้ให้พิมพ์ลายนิ้วมือ หรือถ่ายภาพผู้นำสลากมาขึ้นเงินรางวัลคู่กับตัวสลาก ตลอดจนถ่ายเอกสารสำเนาบัตรประชาชน รวมทั้งการติดตั้งกล้องวงจรปิดในบริเวณที่รับซื้อรางวัล การดำเนินการต่าง ๆ เหล่านี้ จะช่วยคัดกรอง และป้องกันผู้ที่คิดจะนำสลากปลอมหรือสลากแก้ไขตัวเลข ไม่ให้มาหลอกขึ้นเงินรางวัลได้ ทั้งนี้ หากผู้รับซื้อรางวัลหรือประชาชนมีข้อสงสัย สามารถศึกษารายละเอียดการตรวจสอบสลากปลอมได้จากเว็บไซต์สำนักงาน www.glo.or.th หรือสอบถามได้ที่กลุ่มงานตรวจพิสูจน์ สำนักจ่ายรางวัล หมายเลขโทรศัพท์ 0 2528 9641-44 หรือ 0 2528 9999
สำหรับผู้กระทำหรือผู้นำสลากปลอมแปลงหรือแก้ไขตัวเลขไปใช้ขอรับรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือที่อื่นใด มีความผิดอาญา มีโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 เฟซบุ๊ก สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล รายงานว่า พันตำรวจเอก บุญส่ง จันทรีศรี
ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่มีผู้นำสลากปลอมที่มีการแก้ไขตัวเลขและคิวอาร์โค้ดไปขึ้นเงินรางวัล
ว่า จากที่ได้ติดตามจากการนำเสนอผ่านสื่อมวลชน
ทราบว่าเป็นสลากที่มีการแก้ไขตัวเลขและคิวอาร์โค้ด
รวมทั้งแก้ไขแถบพิมพ์ตัวอักษรด้านข้าง ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดอาญา
มีโทษจำคุกและปรับด้วย
ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
กล่าวต่อไปอีกว่า ปัจจุบัน มิจฉาชีพมีหลากหลายรูปแบบ
จึงขอให้ผู้ประกอบอาชีพรับซื้อรางวัล
ใช้ความระมัดระวังตรวจสอบสลากอย่างละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น
โดยในเบื้องต้นให้ใช้วิธีการเปรียบเทียบกับสลากของจริงของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลในงวดนั้น
ๆ เพื่อหาความแตกต่างกับสลากที่ต้องการตรวจพิสูจน์ เช่น
ตรวจดูคุณลักษณะทั่วไปของสลาก คือความหนาบางของกระดาษ รูปภาพสลาก
ขนาดของตัวเลข และขนาดของตัวอักษร และตรวจสอบคุณลักษณะพิเศษของสลาก
โดยให้สังเกตว่ากระดาษที่ใช้พิมพ์สลากจะมีลายน้ำในเนื้อกระดาษเมื่อส่องกับแสงไฟสีขาว
หรือแสงสว่างจะมองเห็นลายน้ำรูปนกวายุภักษ์ในเนื้อกระดาษ
และเมื่อส่องกับแสงไฟสีม่วง (แสงยูวี) จะมองเห็นเส้นไหม
และเส้นที่พาดผ่านตัวเลขมีลักษณะเรืองแสง หรืออาจใช้น้ำสะอาดมาถูบนสลาก
ซึ่งหมึกที่ใช้พิมพ์ตัวเลขสลากของจริงเมื่อถูกน้ำจะไม่ละลาย
นอกจากการตรวจสอบสลากอย่างรอบคอบแล้ว ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้แนะนำให้ผู้ประกอบอาชีพรับซื้อรางวัล มีการเฝ้าระวังเพิ่มเติม โดยการขอให้ผู้มาขึ้นเงินรางวัลแสดงบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อตรวจดูว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ พร้อมถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน รวมทั้งหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ไว้หลังสลาก โดยให้ผู้รับรางวัลลงลายมือชื่อไว้ หรือหากไม่สามารถเขียนหนังสือได้ให้พิมพ์ลายนิ้วมือ หรือถ่ายภาพผู้นำสลากมาขึ้นเงินรางวัลคู่กับตัวสลาก ตลอดจนถ่ายเอกสารสำเนาบัตรประชาชน รวมทั้งการติดตั้งกล้องวงจรปิดในบริเวณที่รับซื้อรางวัล การดำเนินการต่าง ๆ เหล่านี้ จะช่วยคัดกรอง และป้องกันผู้ที่คิดจะนำสลากปลอมหรือสลากแก้ไขตัวเลข ไม่ให้มาหลอกขึ้นเงินรางวัลได้ ทั้งนี้ หากผู้รับซื้อรางวัลหรือประชาชนมีข้อสงสัย สามารถศึกษารายละเอียดการตรวจสอบสลากปลอมได้จากเว็บไซต์สำนักงาน www.glo.or.th หรือสอบถามได้ที่กลุ่มงานตรวจพิสูจน์ สำนักจ่ายรางวัล หมายเลขโทรศัพท์ 0 2528 9641-44 หรือ 0 2528 9999
สำหรับผู้กระทำหรือผู้นำสลากปลอมแปลงหรือแก้ไขตัวเลขไปใช้ขอรับรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือที่อื่นใด มีความผิดอาญา มีโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก