ป้าไพมณี กลับคำไม่สาบาน ปมหวย 12 ล้าน ก่อนเดินหนีนักข่าว ตอนนี้ไม่อยากดำเนินคดี เจ๊รัตน์ ชี้แจ้งความเพราะแค่อยากให้ตำรวจช่วยหาลอตเตอรี่
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
เป็นอีกหนึ่งประเด็นวุ่นวายอลเวงที่ไม่รู้ว่าจะจบลงอย่างไร สำหรับกรณี หวย
12 ล้าน ที่ ป้าไพมณี นางรำ จ.สกลนคร ไปจองเอาไว้กับ เจ๊รัตน์
แม่ค้าลอตเตอรี่ แต่ไม่ได้จ่ายเงินและลืมไป
จนกระทั่งมารู้ตัวว่าถูกรางวัลที่ 1 แต่เจ๊รัตน์บอกว่าขายหวยไปแล้ว
จนกลายเป็นดราม่า และถึงขั้นท้าทายมาสาบานกันต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์
อ่านข่าว - ป้าไพมณี วอนคนถือหวย 12 ล้านมาคุย ยันพร้อมแบ่งเงินให้ แต่ถ้าจำผิดก็พร้อมจบเรื่อง
อ่านข่าว - ป้าไพมณี วอนคนถือหวย 12 ล้านมาคุย ยันพร้อมแบ่งเงินให้ แต่ถ้าจำผิดก็พร้อมจบเรื่อง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 13 มีนาคม 2564 ช่าวช่องวัน รายงานว่า
ป้าไพมณี กับ เจ๊รัตน์ ต่างเดินทางมายังวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร
วัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดสกลนคร เพื่อมาสาบานตามนัด
ซึ่งเป็นการเจอหน้ากันครั้งแรก
ทั้งสองได้เดินถือดอกไม้ธูปเทียนเข้าไปในวิหารพร้อมกัน
แต่ไม่มองหน้ากัน
โดยมัคนายกกำชับทั้งคู่ว่าห้ามสาปแช่งสาบานให้ตายหรือมีอันเป็นไปอย่างเด็ดขาด
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จากนั้นเจ๊รัตน์ก็ได้ไหว้ พร้อมพูดว่า อยากมาแก้เรื่องที่ถูกกล่าวว่ายักยอกเก็บลอตเตอรี่ไว้กับตัวเอง ขอยืนยันว่าไม่ได้เอาไป และมาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
เจ๊รัตน์ กล่าวอีกว่า อีกฝ่ายนัดจะจ่ายเงินค่าหวยในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ แต่ไม่มาตามนัด ตนจึงต้องขายออกไป เพื่อเอาเงินมาซื้อลอตเตอรี่รอบใหม่ ตนจะเขียนรายชื่อลูกค้าไว้มุมข้างหน้าเท่านั้น และไม่รู้ว่าป้าไพมณีเขียนชื่อไว้ข้างหลังสลากจริงหรือไม่ เพราะตอนทำเป็นตอนกลางคืน
ยืนยันว่าป้าไพมณีไม่ได้เป็นเพื่อน และไม่ได้เป็นลูกค้าประจำด้วย
จึงอยากให้เจอลอตเตอรี่โดยเร็ว และอยากให้คนที่ซื้อมาแสดงตัว
เนื่องจากตนเสียหายมาก โดนกล่าวหามากมาย
แม้ว่าที่ผ่านมาตนจะพูดความจริงก็ตาม
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ป้าไพมณี กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้มาสาบาน เพียงแค่มายืนยันความจริง และไม่ได้อยากสาปแช่งใคร ตอนนี้ไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว แต่อยากให้ช่วยกันหาลอตเตอรี่ใบนั้นให้เจอ เพราะถ้าหาเจอจะยกเลิกไม่เอาเรื่องเอาความ และไม่อยากให้คนต่อว่าว่าตนแต่งเรื่องขึ้น ส่วนสาเหตุที่ต้องแจ้งความก็เพราะอยากให้ตำรวจเข้ามาช่วยตามหา
ขณะที่ เจ๊รัตน์
สวนกลับทันควันว่า ตนมาวันนี้เพราะตั้งใจมาสาบานตามที่อีกฝ่ายท้าทายให้มา
และอยากสาบานมากเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
รวมถึงอยากให้สังคมรู้ว่าตนไม่ได้ยักยอกทรัพย์
ที่ผ่านมาตนเสียหายมากหลังจากอีกฝ่ายเข้าแจ้งความ
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ด้านป้าไพมณีไม่ตอบ แต่พูดกับสื่อว่า ขอวอนสื่อเหมือนกันว่าให้เป็นกระจกส่องดูว่าความจริงคืออะไร และวอนให้กองสลากเข้ามาตรวจสอบ มันจะได้ไม่วุ่นวายและเลวร้ายมากไปกว่านี้ จากนั้นป้าไพมณีได้ยกมือไหว้ กล่าวขอบคุณและหันหลังไปทันที แต่นักข่าวกันเอาไว้และถามว่าจะกลับมาสาบานใหม่หรือไม่ ป้าไพมณีก็บอกว่า ถ้าเขาติดใจจะมาสาบานใหม่ก็ได้ และรีบเดินหนีไป
เจ๊รัตน์ซึ่งยังคงยืนสัมภาษณ์อยู่ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเสียหายมาก ค้าขายไม่ได้เลย จากที่ขายได้วันละร้อย ๆ ใบ ตอนนี้รู้สึกอัดอั้นมาก ส่วนเมื่อวานที่ตำรวจมาค้นบ้านก็ไม่เจออะไร เพียงแต่เอาลอตเตอรี่งวดวันที่ 1 มีนาคม 2564 ที่เหลือประมาณ 40 ใบ กลับไป ซึ่งก็ไม่มีใบไหนถูกรางวัล นอกจากนี้แล้วตนก็ได้ถามยี่ปั๊วทุกรายแล้ว ยังไม่มีใบไหนที่ถูกรางวัล และไม่รู้ว่ามีจริงหรือไม่ หากพิสูจน์ได้แล้วว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ก็อาจจะแจ้งความกลับ
ส่วนป้าไพมณียังคงอยู่ในวัด ซึ่งก็เปิดเผยว่า จำเป็นต้องเดินหนีออกมา เพราะอีกฝ่ายเริ่มมีอารมณ์ เกรงว่าจะไม่ปลอดภัยหากยังอยู่ต่อ ยืนยันว่าตอนแรกตั้งใจจะมาสาบาน แต่มัคนายกห้ามไว้ จึงไม่ได้สาบาน แค่แสดงความบริสุทธิ์ใจเท่านั้น และยังคาใจว่าอีกฝ่ายเอาลอตเตอรี่ไปแล้วจริง ๆ หรือไม่
สำหรับในส่วนของคดีนั้น พ.ต.อ. ตรีวิทย์ ศรีประภา รองผู้บังคับการจังหวัดสกลนคร ระบุว่า ตอนนี้ทางตำรวจได้รับเรื่องนี้เป็นคดีอาญาแล้ว ซึ่งเจ๊รัตน์ ผู้ถูกกล่าวหา เข้าข่ายยักยอกทรัพย์ ล่าสุดได้สอบปากคำพยานฝ่ายป้าไพมณีไปแล้ว 3 ปาก คือ นางเพ็ญศรี นางสอน และนางทิพย์
พ.ต.อ. ตรีวิทย์ กล่าวอีกว่า
ได้พูดคุยกับป้าไพมณีเป็นการส่วนตัว
ซึ่งป้าไพมณีบอกว่าไม่อยากดำเนินคดีแล้ว
และประสงค์จะเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย
แต่ตามขั้นตอนของกฎหมายนั้นต้องดำเนินคดี
ต้องแจ้งข้อกล่าวหาและออกหมายเรียกเจ๊รัตน์ก่อน
ถึงจะเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้ ซึ่งป้าไพมณีก็รับทราบ
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้, ช่าวช่องวัน